วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553


บ้าๆบอๆ
สร้างกริตเตอร์
| ฟังเพลง | ดารา | เกมส์

jin
สร้างกริตเตอร์
| ฟังเพลง | ดารา | เกมส์

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ประวัติ

สวัดดีค่ะ ดิฉันนางสาว จินตหรา กุลสุรรณ
เรียนอยู่ คณะวิทยาศาสตร์ เอกเคมี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ภูมิลำเนา 114หมู่11 ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี 41280
เวลาว่างชอบฟังเพลง
ละครที่ชอบชอบแนว น้ำเนา
อาหารที่ชอบ แทบทุกอย่าง(ยกเว้นปลา)
สีที่ชอบ สีฟ้า
ชอบฟังเพลงป๊อบ
เกิดวันที่20 กพ 2532

วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2553

Tagine De Marrakeshนำ


Tagine De Marrakesh

12 นานา ซอย 3 ถ.สุขุมวิท กทม. โทร. 0-2225-0651 ต่อ 2113


หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความสนใจในวัฒนธรรมของประเทศโมร็อกโค คุณคงทราบดีถึงความหมายของร้านอาหารแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี Tagine เป็นภาชนะสำหรับใส่อาหารทำจากกระเบื้องดินเผาเคลือบเพ๊นท์ด้วยลวดลายสไตล์โมร็อกคัน ส่วน Marrakesh เป็นภาษาโมร็อกโคโบราณที่ใช้เรียกประเทศโมร็อกโค ดังนั้น Tagine De Marrakesh จึงหมายถึงอาหารจากประเทศโมร็อกโคนั่นเอง หลายคนเข้าใจว่าอาหารโมร็อกโคเป็นอาหารอาหรับ แต่แท้จริงแล้วอาหารโมร็อกโคเป็นหนึ่งในอาหารเมดิเตอร์เรเนียน

Tagine De Marrakeshนำเอาอาหารโมร็อกโคจากเมืองคาซาบลังก้าที่เด่นเรื่องการใช้น้ำมันมะกอก มะกอกหลากสีทั้งสีเขียว ดำ เหลือง แดงและบรรดาเครื่องเทศที่ช่วยเติมกลิ่นอายแบบโมร็อกโค อาทิ อบเชย ซัฟฟรอน ซึ่งเป็นจุดเด่นของอาหารสุขภาพสไตล์โมร็อกโคและเมดิเตอร์เรเนียน


ที่นี่ไม่เพียงแต่ทำให้คนโมร็อกโคเห็นแล้วคิดถึงบ้านและอาหารพื้นเมือง แต่คงทำให้คนไทยอย่างเราอยากออกเดินทางไกลไปถึงโมร็อกโคก็เป็นได้


เมนแนะนำ
- Free range chicken with olives and pickled lemon ไก่เสิร์ฟพร้อมมะกอกแดงและมะนาวดอง
- Lamb tagine with prunes ขาแกะหมักเครื่องเทศ ให้รสหวานจากลูกพรุนและความมันจากอัลมอนด์
- Lamb couscous with vegetables คูสคูส เสิร์ฟกับแกะ มันฝรั่ง ฟักทอง แครอท ซูคินี และน้ำเต้า






ที่มา:
http://www.gourmetthai.com/newsite/restaurant/restaurant_detail.php?content_code=CONT966

เทคโนโลยีและศิลปะ



ผสานความสุขด้วยเทคโนโลยีและศิลปะกับ มร. มิน ปาร์ค

ดีไซน์สวยงาม ประโยชน์ครอบคลุมทุกฟังก์ชันการใช้งาน และระบบเทคโนโลยีไฮเทคล้ำสมัย คือใจความสำคัญที่ มร. มิน ปาร์ค ผู้จัดการทั่วไป แผนกอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด พยายามตอกย้ำแก่กลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทยผ่านกลยุทธ์ทางการตลาดที่สร้างสรรค์ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยมีลักษณะพิเศษแตกต่างจากกลุ่มลูกค้าในประเทศอื่นๆ

กล่าวคือ ชาวไทยเป็นชาติที่ไวต่อการรับเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ อาจเรียกได้ว่ามีบุคลิกที่ค่อนข้างเปิดกว้างและพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ดังนั้นธุรกิจต่างชาติซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ จึงต้องการแทรกตัวเข้ามาแข่งขันเพื่อแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด ยกตัวอย่างเช่น โทรศัพท์ไอโฟน (iPhone) หรือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตและมัลติมีเดีย ก็ได้รับเลือกให้เปิดตัวในไทยก่อนหน้าที่จะไปประเทศเกาหลี

ในกรณีนี้ ผู้จัดการทั่วไปซึ่งเป็นคนเกาหลีแท้ๆ แต่เข้ามาทำงานในประเทศไทยประมาณ 4 ปีแล้วกลับบอกว่า หากใช้เทคโนโลยีระดับสูงเพียงอย่างเดียวนั้นคงจะไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากชาวไทยได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องเพิ่มเรื่องการออกแบบที่ดูสวยงามและมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เข้าไปด้วย เนื่องจากคนไทยชอบเรื่องความเป็นแฟชันและการเป็นผู้นำเทรนด์ ส่วนมูลเหตุที่จะอธิบายพฤติกรรมเหล่านั้น คุณปาร์คมองว่าเพราะคนไทยมี “Sense of Beauty” อยู่ในสายเลือดมาตั้งแต่เกิดนั่นเอง

สังเกตง่ายๆ จากเวลาออกไปกินข้าวตามร้านอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กหรือใหญ่ ราคาถูกหรือแพง ส่วนมากมักจะได้รับการประดับตกแต่งอย่างมีสไตล์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่เหมือนในประเทศเกาหลี คือถ้าอยากกินข้าวเคล้าบรรยากาศดีๆ จะต้องเตรียมตัวเตรียมใจจ่ายค่าอาหารมื้อนั้นในราคาที่หนักกระเป๋า และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจคือคนไทยสามารถผสานสิ่งต่างๆ ให้เป็นศิลปะอันสวยงามได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินจำนวนมาก เพราะฉะนั้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัท แอลจี เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เตาไมโครเวฟ จึงออกแบบให้มีระบบเทคโนโลยีล้ำสมัยควบคู่ไปกับดีไซน์สวยเก๋ไม่ซ้ำใคร เพราะนอกจากจะต้องตอบสนองความต้องการด้านการใช้งานตามหน้าที่หลักแล้ว ยังต้องเติมเต็มความต้องการด้านความสวยงามที่แฝงอยู่ในความรู้สึกของคนไทยอีกด้วย ซึ่งการจะดีไซน์รูปแบบออกให้มีความแปลกตาน่าใช้ คุณปาร์คบอกว่าจำเป็นต้องทำให้ตัวเรามีความสุขก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงกระจายต่อไปยังทีมงานรอบๆ ตัว

วิธีการสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในระหว่างการทำงานนั้น คุณปาร์คเลือกใช้วิธีสร้างแรงบันดาลใจพร้อมกับเสนอผลตอบแทนดีๆ ให้ แถมยังเปิดโอกาสก้าวหน้าในการทำงานให้อีกด้วย เพราะเขาเชื่อว่าหากคนในองค์กรทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข ทุกๆ คนก็จะหยิบพลังกายและใจที่ดีออกมาแปรเป็นความเข้มแข็ง องค์กรก็จะสามารถต่อสู้กับคนอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพในที่สุด ถึงแม้ในช่วงปีแรกๆ ของการทำงานอาจจะมีสะดุดบ้างเล็กน้อยเนื่องจากต้องปรับวัฒนธรรมให้เข้ากัน

ส่วนการสร้างความสุขให้เกิดขึ้นกับตนเองนั้น คุณปาร์คบอกว่าทำได้ไม่ยาก แค่ออกไปหาของอร่อยๆ กินเท่านั้นเอง ถึงแม้จะคุ้นลิ้นกับอาหารเกาหลี แต่เมื่อต้องปรับปุ่มรับรสให้เป็นแบบคนไทยก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เนื่องจากอาหารอร่อย รสชาติก็เป็นแบบที่คนเกาหลีชอบ คือมีทั้งรสเปรี้ยว หวาน และเผ็ด คล้ายๆ กัน และเมนูยอดนิยมที่หากมาเมืองไทยแล้วไม่สั่งไม่ได้ก็คือแกงส้ม กะเพราหมูสับ และยำวุ้นเส้น

สำหรับมื้ออาหารที่จะทำให้คุณปาร์คมีความสุขสุดๆ ต้องบอกให้พนักงานยกส้มตำไทยมาวางไว้บนโต๊ะด้วย ไม่ต้องห่วงเรื่องจำนวนเม็ดพริกที่ใส่ลงไปในครก เพราะคุณปาร์คสามารถสั่งส้มตำเป็นภาษาไทยได้อย่างชัดถ้อยชัดคำว่าขอแบบ “เผ็ดๆ” !




ที่มา:
http://www.gourmetthai.com/newsite/happymeal/happy_detail.php?content_code=CONT1010

ข่าวตลาดเงินตลาดหุ้น




ข่าวตลาดเงินตลาดหุ้น

หุ้นขึ้นตามตลาดตปท. พลังงาน-แบงก์หนุน วันที่ 7/01/2553 เวลา 09:40:27



นักวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวในแดนบวกตามตลาดต่างประเทศ แรงซื้อกลุ่มพลังงาน-แบงก์ หนุน คาดแกว่งตัวในกรอบ 742-730 จุด

นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ (7 ม.ค.) ว่า ตลาดน่าจะปรับตัวในแดนบวกตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยกลุ่มแบงก์ และกลุ่มพลังงาน นำตลาดฯ เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นไปทำให้หุ้นในกลุ่มน้ำมันน่าจะได้รับผลดีไปด้วย อีกทั้งในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ค่าการกลั่นก็มักจะ peak ดังนั้นหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นก็จะได้รับผลดีด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ การประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 4 ของปี 2552 ของกลุ่มแบงก์ ส่วนใหญ่จะออกมาดี และคาดว่าจะมีการตั้งสำรองฯลดลง จึงทำให้หุ้นในกลุ่มแบงก์น่าจะได้รับความน่าสนใจเข้าลงทุน โดยมีหุ้นเด่นคือ TMB และ BAY
อีกทั้งการที่เศรษฐกิจโลกค่อย ๆ ฟื้นตัวตามลำดับ ทำให้ธุรกิจการส่งออกจะดี อย่างพวกอาหาร และกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ รวมถึงภาคบริการ ด้วย สำหรับปัจจัยทางการเมืองก็ไม่ได้มีผลอะไรที่รุนแรง
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่742-730 จุด

ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com

วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2553

ปีใหม่

เทศบาลตำบลสวางอารมณ์จัดงานวันขึ้นปีใหม่ 2552


เทศบาลตำบลสวางอารมณ์จัดงานวันขึ้นปีใหม่ 2552

เทศบาลตำบลสว่างอารมณ์ นำโดยนายสมคิด พวงชื่น นายกเทศมนตรีตำบลสว่างอารมณ์ ร่วมกับหน่วยงานในอำเภอสว่างอารมณ์ จัดงานวันขึ้นปีใหม่ 2552 ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสว่างอารมณ์ในวันที่ 29 ธันวาคม 2551 ในแนวคิดที่ว่ารักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย จะเกิดภาคไหน ไหน ก็ไทยด้วยกัน สวัสดีปีใหม่ 2552 นำโดยท่านนายอำเภอสว่างอารมณ์ให้เกี่ยรติมาเป็นประธานในงานวันขึ้นปีใหม่ ตัดเค้กและอวยพรปีใหม่ให้กับประชาชนในอำเภอสว่างอารมณ์มีประชาชนมาร่วมงานปีใหม่ประมาณ 2,000 คน โดยหน่วยงานแต่ละแห่งนำอาหารมาร่วมรับประทานกัน ฟังดนตรีไพเราะและร่วมร้องเพลงกัน สนุกสนานต้อนรับวันปีใหม่ 2552 ...




ที่มา:
http://www.sawang-arom.com/news_detail.php?id=71

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

วันครู




วันครู ประวัติวันครู ความเป็นมาวันครู ความหมายวันครู การจัดงานวันครู คำปฏิญาณตนของครู

ความหมาย
ครู หมายถึง ผู้อบรมสั่งสอน; ผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้สร้างสรรค์ภูมิปัญญา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและประเทศชาติ

ความเป็นมา
วันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๘ ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษา ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครู ด้วยเหตุนี้ในทุก ๆ ปี คุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และซักถามปัญหาข้อข้องใจต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้ตอบข้อสงสัยสถานที่ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคคยาจารย์ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า“ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าวันครูควรมีสักวันหนึ่งสำหรับให้บันดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ได้แสดงความเคารพสักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณทั้งหลาย เพราะเหตุว่าสำหรับคนทั่วไปถ้าถึงวันตรุษ วันสงกรานต์ เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง” จากแนวความคิดนี้ กอปรกับความคิดเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่น ๆ ที่ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมาก ในปีเดียวกันที่ประชุมคุรุสภาสามัญประจำปีจึงได้พิจารณาเรื่องนี้และมีมติเห็นควรให้มีวันครูเพื่อเสนอคณะกรรมการอำนวยการต่อไป โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างครูกันประชาชน ในที่สุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ ให้วันที่ ๑๖ มกราคมของทุกปีเป็น “วันครู” โดยเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๘ เป็นวันครูและให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าวได้

การจัดงานวันครู
การจัดงานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงาน งานวันครูนี้ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปี อนุสรณ์ที่สำคัญคือ หนังสือประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างที่เป็นถาวรวัตถุ

การจัดงานวันครูได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกิจกรรม ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดเวลา ในปัจจุบันได้จัดรูปแบบการจัดงานวันครู จะมีกิจกรรม ๓ ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้ 1. กิจกรรมทางศาสนา
2. พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ประกอบด้วยพิธีปฏิญาณตน การกล่าวคำระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์
3. กิจกรรมเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู ส่วนมากเป็นการแข่งขันกีฬาหรือการจัดงานรื่นเริงในตอนเย็น

ปัจจุบันการจัดงานวันครู ได้มีการกำหนดให้จัดพร้อมกันทั่งประเทศ สำหรับในส่วนกลางจัดที่หอประชุมคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการจัดงานวันครู ซึ่งมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน ประกอบด้วยบุคคลหลายอาชีพร่วมกันเป็นผู้จัด สำหรับส่วนภูมิภาคมอบให้จังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ โดยตั้งคณะกรรมการจัดงานวันครูขึ้นเช่นเดียวกับส่วนกลางจะจัดรวมกันที่จังหวัดหรือแต่ละอำเภอก็ได้
รูปแบบการจัดงานในส่วนกลาง (หอประชุมคุรุสภา) พิธีจะเริ่มตั้งแต่เช้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภา คณะกรรมการอำนวยการคุรุสภา คณะกรรมการจัดงานวันครู พร้อมด้วยครูอาจารย์และประชาชนร่วมกันใส่บาตรพระสงฆ์ จำนวน ๑,๐๐๐ รูป หลังจากนั้นทุกคนที่มาร่วมงานจะเข้าร่วมพิธีในหอประชุมคุรุสภา นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเป็นประธานในงาน ดนตรีบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ นายกรัฐมนตรีบูชาพระรัตนตรัย ประธานสงฆ์ให้ศีล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวรายงานต่อนายกรัฐมนตรี เสร็จแล้วพิธีบูชาบูรพาจารย์โดยครูอาวุโสนอกประจำการจะเป็นผู้กล่าวนำพิธีสวดคำฉันท์รำลึกถึงประคุณบูรพาจารย์


มารยาทและวินัยตามระเบียบประเพณีของครู
1. เลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ
2. ยึดมั่นในศาสนาที่ตนนับถือ ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาอื่น
3. ตั้งใจสั่งสอนศิษย์และปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เกิดผลดีด้วยความเอาใจใส่ อุทิศเวลาของตน ให้แก่ศิษย์ จะละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่การงานไม่ได้
4. รักษาชื่อเสียงของตนมิให้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ห้ามประพฤติการใด ๆ อันอาจทำให้เสื่อมเสียเกียรติและชื่อเสียงของครู
5. ถือปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมอันดีงามของสถานศึกษา และปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งในหน้าที่การงานโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบแบบแผนของสถานศึกษา
6. ถ่ายทอดวิชาความรู้โดยไม่บิดเบือนและปิดบังอำพราง ไม่นำหรือยอมให้นำผลงานทางวิชาการของตนไปใช้ในทางทุจริตหรือเป็นภัยต่อมนุษย์ชาติ
7. ให้เกียรติแก่ผู้อื่นทางวิชาการ โดยไม่นำผลงานของผู้ใดมาแอบอ้างเป็นผลงานของตน และไม่เบียดบังใช้แรงงานหรือนำผลงานของผู้อื่นไป เพื่อประโยชน์ส่วนตน
8. ประพฤติตนอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วยความเที่ยงธรรมไม่แสวงหาประโยชน์สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ
9. สุภาพเรียบร้อยประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ รักษาความลับของศิษย์ ของผู้ร่วมงานและของสถานศึกษา
10. รักษาความสามัคคีระหว่างครูและช่วยเหลือกันในหน้าที่การงาน


คำปฏิญาณตนของครู
ข้อ 1. ข้าจะบำเพ็ญตนให้สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นครู
ข้อ 2. ข้อจะตั้งใจฝึกสอนศิษย์ให้เป็นพลเมืองดีของชาติ
ข้อ 3. ข้าจะรักษาชื่อเสียงของคณะครูและบำเพ็ญตนให้เป็น


อบจ.อุบลฯ จัดงานวันครู ประจำปี 2553 “น้อมวันทา บูชาครู กตัญญูกตเวที”

วันที่ 16 มกราคม 2553 ซึ่งเป็นวันครูของคนไทย ประจำปีนี้ เวลา 09.00 น. กองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม อบจ.อุบลฯ ได้จัดงานวันครูขึ้น ณ ศูนย์โอท็อปเซ็นเตอร์ อบจ.อุบลฯเพื่อน้อมระลึกถึงพระคุณครูและเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที ต่อครูและเห็นความสำคัญของบุคคลที่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับศิษย์ทุกคน เป็นที่ประจักษ์ให้เห็นวิธีชีวิตที่งอกงาม เจริญก้าวหน้าในทุกวิชาชีพอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข โดย มีนายพรชัย โควสุรัตน์ นายกอบจ.อุบลฯ เป็นประธานเปิดงาน ทั้งนี้มีผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากร เข้ารวมกิจกรรมกล่าว 500 คน ซึ่ง อบจ.อุบลฯ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ส่วนในปีนี้มีโรงเรียนในสังกัด อบจ.อุบลฯ ทั้ง 12 โรงเรียน คือโรงเรียนพิบูลมังสาหาร โรงเรียนไร่ใต้ประชาคม โรงเรียนหนองบัวฮีวิทยา โรงเรียนแก้งเหนือวิทยา โรงเรียนนาคำวิทยา โรงเรียนเหล่างามวิทยา โรงเรียนนาสะไมวิทยา โรงเรียนโนนกลางวิทยา โรงเรียนเบ็ตตี้ดูเมน 2 (ช่องเม็ก) โรงเรียนบัวงามวิทยา โรงเรียนห้วยข่าวิทยา และโรงเรียนน้ำขุ่นวิทยา ร่วมกิจกรรม



โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. ภายหลังจากที่นายพรชัย โควสุรัตน์ ประธานในพิธีจุดเทียนธูป บูชาพระรัตนตรัยแล้ว พระสงฆ์ 9 รูปนำโดย เจ้าคณะจังหวัดอุบลฯให้ศีล จากนั้นเจริญพระพุทธมนต์ ประธานใน พิธีพร้อมคณะผู้บริหาร ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา จากนั้นนักเรียนร่วมร้องเพลงประสานเสียง ว่าที่ร้อยตรีสุรพล สืบพรหม ผู้อำนวยการกองการศึกษาสาสนาและวัฒนธรรมอ่านสารวันครู จากนั้นนายนกุล เขียวอ่อน กล่าวนำพิธีสวดคำระลึกถึงพระคุณบูรพคณาจารย์ จากนั้นประธานในพิธี กล่าวถึงความสำคัญของวันครู จากนั้นทำพิธีมอบเกียรติบัตร และรางวัลแด่ครูดีเด่น เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการสถานศึกษา จากนั้นเป็นการบรรยายพิเศษเรื่อง การเป็นครูอย่างมืออาชีพ โดย อาจารย์ ดร.สมานจิต ภิรมย์รื่น และเวลาประมาณ 13.00 น. เป็นกิจกรรการแข่งขันกีฬา อาทิ การแข่งขันฟุตบอล กีฬาพื้นบ้าน การประกวดกองเชียร์ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างครูจากสถานศึกษาในสังกัดฯ ทั้ง 12 แห่ง

ด้านนายพรชัย โควสุรัตน์ นายก อบจ.อุบลฯ กล่าวถึง ความสำคัญของวันครู ว่า อบจ.อุบลฯ จัดงานวันครูขึ้น ปีนี้เป็นปีที่ 2 เพื่อเป็นการน้อมระลึกถึงบูรพจารย์ นอกจากนั้นยังเป็นการส่งเสริมความสามัคคีระหว่างครู ทั้ง 12 โรเรียน รวมทั้งบุคลากรในองค์กรต่างๆ ไปจนถึงประชนทั่วไป เป็นการสนับสนุนการพัฒนาวิชาชีพครูและธำรงซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของไทย พร้อมกล่าวขอบคุณและในการทำงานร่วมกันของคุณครูทั้ง 12โรงเรียน ที่ร่วมกันพัฒนาการศึกษาให้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป นายพรชัยกล่าว

ด้าน นางสาวณัฐวรรณ ดอกจันทร์ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนพิบูลมังสาหาร กล่าวว่า “วันนี้มาร่วมงานวันครู เพื่อร่วมแสดงการขับร้องเพลง สำหรับครูในความหมายของหนู คือ ผู้ที่ให้ทุกอย่าง สอนทุกเรื่อง ทั้งเรื่องการเรียน และเรื่องการดำรงชีวิตในสังคม ครูถือเป็นผู้ให้ สำหรับวันครูปีนี้อยากให้คุณครูมีความสุข และสุขภาพแข็งแรงเป็นร่มโพธิ์ของศิษย์ตลอดไป”

ด้านนายณรงค์พล มั่นคง นักเรียนชั้น ม. 6 โรงเรียนพิบูลมังสาหาร กล่าวว่า “ครู ในความหมายของผม คือ ผู้ที่ให้ความรู้ อบรมสั่งสอนผมทุกอย่าง ในชีวิตการเรียนที่ผ่านมาผมมีความตั้งใจมากขึ้นจนมีวันนี้ คือ ได้ทำตัวเป็นเยาวชนที่ดีเพราะจากการที่ได้รับคำสอนจากคุณครู ทั้งจากคำติ คำชม แต่ล้วนเป็นคำสอนที่มีค่ามาก ครับ”

สำหรับความสำคัญของวันครู คือ เพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมาก ในปีเดียวกันที่ประชุมคุรุสภาสามัญประจำปีจึงได้พิจารณาเรื่องนี้และมีมติเห็นควรให้มีวันครูเพื่อเสนอคณะกรรมการอำนวยการต่อไป โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างครูกันประชาชน ในที่สุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ ให้วันที่ ๑๖ มกราคมของทุกปีเป็น “วันครู” โดยเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๘ เป็นวันครูและให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าวได้

ครู หมายถึง ผู้อบรมสั่งสอน; ผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้สร้างสรรค์ภูมิปัญญา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและประเทศชาติ




ที่มา:http://guideubon.com/news/view.php?t=115&s_id=1172&d_id=1174

วัฒนธรรมภาคอีสาน


วัฒนธรรมภาคอีสาน (ประเทศไทย)
ประวัติภาคอีสาน
ภาคอีสาน เป็นเขตหรือภาคหนึ่ง ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของไทย อยู่บนที่ราบสูงโคราช มีแม่น้ำโขงกั้นเขตทางตอนเหนือและตะวันออกของภาค ทางด้านใต้จรดชายแดนกัมพูชา ทางตะวันตกมีเทือกเขาเพชรบูรณ์และเทือกเขาดงพญาเย็นเป็นแนวกั้นแยกจากภาคเหนือและภาคกลาง

การเกษตรนับเป็นอาชีพหลักของภาค แต่ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ทางด้านสังคมเศรษฐกิจ ทำให้มีผลผลิตที่น้อยกว่าภาคอื่นๆ

ภาษาหลักของภาคนี้ คือ ภาษาอีสาน แต่ภาษาไทยกลางก็นิยมใช้กันแพร่หลายโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ขณะเดียวกันยังมีภาษาเขมร ที่ใช้กันมากในบริเวณอีสานใต้ นอกจากนี้ยังมีภาษาถิ่นอื่นๆ อีกมาก เช่น ภาษาผู้ไท ภาษาโส้ ภาษาไทยโคราช เป็นต้น

ภาคอีสานมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น เช่น อาหาร ภาษา ดนตรีหมอลำ และศิลปะการฟ้อนรำที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เป็นต้น

ภาคอีสาน มีเนื้อที่มากที่สุดของประเทศไทย ประมาณ 168,854 ตารางกิโลเมตร หรือมีเนื้อที่ร้อยละ 33.17 เทียบได้กับหนี่งในสามของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศไทยได้จัดว่าเป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เทือกเขาที่สูงที่สุดในภาคอีสานคือ ยอดภูหลวง และภูกระดึงซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญของชาวอีสานในหลายจังหวัดด้วยกัน เช่น ลำตะคอง แม่น้ำชี แม่น้ำพอง แม่น้ำเลย แม่น้ำพรม แม่น้ำมูล







ที่มา:http://th.wikipedia.org/wiki